อำเภอลำดวน
ย้อนกลับ

 

อำเภอลำดวน

        เดิมทีอำเภอลำดวน   เป็นเพียงกิ่งอำเภอลำดวน   ต่อมาได้มีกฤษฎีกายกฐานะกิ่งอำเภอลำดวน     เป็นอำเภอลำดวน   ประกอบด้วย  5  ตำบล           คือ   ตำบลลำดวน  ตำบลโชคเหนือ   ตำบลตรำดม  ตำบลอู่โลก และตำบลตระเปียงเตีย รวม เป็น 51 หมู่บ้าน   ประชากรทั้งสิ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2538    มีจำนวน   28,138 คน   มีพื้นที่ประมาณ 343 ตารางกิโลเมตร  คิดเป็นร้อยละ     3.91      ของพื้นที่จังหวัดสุรินทร์    อยู่ในระดับความสูงโดยเฉลี่ย 150  เมตร จากระดับน้ำทะเล   นายอำเภอปัจจุบันคือ   นายรังสรรคสังข์ประไพ

 

สถานที่ที่สำคัญ

ปราสาทตระเปียงเตีย

เป็นโบราณสถาน ที่ตั้งอยู่ในวัดปราสาทเทพนิมิต   บ้านยะสุข  หมู่ที่ 3   ตำบลตระเปียงเตีย   จังหวัดสุรินทร์   ระยะทางจากสุรินทร์ถึงปราสาทประมาณ   32  กิโลเมตร 

             ประวัติและตำนาน ปราสาทตระเปียงเตียตั้งตามชื่อหมู่บ้าน"ตระเปียงเตีย"หมู่ที่ 1  ตำบลตระเปียงเตีย เป็นคำมาจากภาษาเขมรมีความหมายดังนี้

ตระเปียง   หมายถึง  หนองน้ำ

เตีย         หมายถึง  เป็ด

ดังนั้นตระเปียงเตีย   หมายถึง  หนองเป็ด

แนวทางการอนุรักษ กรมศิลปากรควรจัดการบูรณะซ่อมแซมตามหลักการทางโบราณคดี ปรับบริเวณให้เรียบควรให้ความรู้แก่พระภิกษุและชาวบ้านเพื่อให้เห็นความสำคัญของโบราณสถานอันล้ำค่าแห่งนี้   ส่วนแนวทางการอนุรักษ์ที่ถูกวิธีนั้น   ควรรื้อหลังคาสิ่งก่อสร้างที่ติดกับโบราณสถานออก   จัดทำป้ายบอกลักษณะของปราสาท   ความเป็นมาและความสำคัญ   เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาหาความรู้   โดยจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ   และปรับปรุงเส้นทางคมนาคมจากทางแยกเข้าไปปราสาท

 ปราสาทตระเปียงเตีย เป็นปราสาทเก่าแก่ศิลปแบบลาว   ฝีมือในสมัยอยุธยาตอนปลาย   กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน     ประกาศในราชกิจจานุเบกขา   เล่มที่  52  ตอนที่  75   วันที่ 8  มีนาคม  2478   สภาพปราสาทอยู่ในลักษณะทรุดโทรมตามเหตุการณ์ทางธรรมชาติ                  คือดินฟ้าอากาศและน้ำฝน   มีทัศนะอุจาดคือ   สิ่งก่อสร้างกุฏิสงฆ์ใกล้ชิดตัวปราสาท   องค์ปราสาทถูกปล่อยตามยถากรรมไม่มีข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับปราสาท ตามเอกสารบัญชีโบราณสถานจังหวัดสุรินทร์กล่าวว่ามีประตูลายกนก   กรมศิลปากรบูรณะโครงสร้างตัวปราสาท   เช่นเดียวกับการบูรณะปราสาทยายเหงา                หรือปราสาทภูมิโปน   จากนั้นควรให้ความรู้ในการอนุรักษ์แก่พระภิกษุและชาวบ้านเพื่อช่วยกันอนุรักษ์ต่อไป

เจดีย์บ้านลำดวน

     เจดีย์บ้านลำดวน  เป็นโบราณสถาน   ตั้งอยู่ในบริเวณข้างสนามโรงเรียนชุมชนบ้านลำดวน   ก่อสร้างด้วยอิฐสูงประมาณ  2   เมตร   เนื่องจากอยู่ติดกับสนามกีฬา   จึงทำให้มีลักษณะกีดขวาง   และอาจถูกกระแทกอัดจากการเล่นฟุตบอลได้ง่าย แต่เดิมบรเวณตรงนี้   เป็นที่ตั้งของวัดปทุมโสภาจินดาราม   แต่วัดแห่งนี้ถูกไฟไหม้  2   ครั้ง   จึงย้ายไปสร้างที่ใหม่ชื่อว่าวัดสุวรรณรัตน์โพธิยาราม   แต่ก่อนมีเจดีย์  2  หลัง   แต่ปัจจุบันได้ปรักหักพังเหลืออยู่   1  หลัง   จากการสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง สันนิษฐานว่า เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเก็บอัฐิของวงศ์ตระกูลเจ้าเมืองสุรพินทนิคม   หลังจากย้ายวัดไปสร้างที่อื่นแล้ว   สถานที่แห่งนี้ก็ใช้สร้างโรงเรียนสุรพินธ์ราษฎร์นุสรณ์   ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนชุมชนบ้านลำดวนเมื่อ   พ.ศ. 2520

 

บัลลังก์บ้านตระเปียงกู

บัลลังก์บ้านตระเปียงกู ไม่ได้ประกาศขึ้นทะเบียน   ห่างจากที่ว่าการอำเภอลำดวนประมาณ 5  กิโลเมตร   อยู่ทางทิศใต้ของบ้านตระเปียงกูหมู่ที่   8  ตำบลลำดวน   ตั้งอยู่บนเนินดินข้างสระน้ำมีลักษณะเป็นแท่นหินสำหรับนั่ง   ข้าง ๆ บริเวณนั้นจะมีศิลาแลงอยู่เรียงรายไปทั่ว    ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่นั่งสำหรับผู้คุมงานในการหล่อศิลาแลง

ศาลหลักเมืองอำเภอลำดวน

            ศาลหลักเมืองอำเภอลำดวน เริ่มสร้างเมื่อปีใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด   แต่สันนิษฐานว่า        คงจะสร้างราวปี   พ.ศ. 2414  ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว   รัชกาลที่  5   ซึ่งพระยาสุรินทร์ภักดีศรีไผทสมันต์ ( ม่วง )   ได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชโองการ   ตั้งบ้านลำดวนเป็นเมืองสุรพินทนิคม     ขึ้นกับเมืองสุรินทร์   และให้พระยาปลัดนาก   เป็นพระยาสุรพินนิคมานุรักษ์เป็นเจ้าเมืองปกครอง

ลักษณะของเมืองลำดวน   จะมีกำแพงคูเมืองล้อมรอบอยู่ 2 ชั้น   ดังนั้นการตั้งเสาหลักเมืองจึงถือเอาจุดศูนย์กลางซึ่งอยู่บนเนินดินสูงสุด   มีต้นไม้ใหญ่ที่สุด   ซึ่งเป็นที่สถิตย์ขององค์เทพารักษ์และสิ่งศักดิ์ทั้งหลาย

              เสาหลักเมืองครั้งแรก   จะเป็นเสาหินรูปสี่เหลี่ยม   ด้านหัวและท้ายจะเรียวมีส่วนสูง   68  ซม.  ส่วนกว้างที่สุดยาว   30  ซม.   มีระยะห่างจากจุดที่ตั้ง          ไปยังคูเมืองชั้นนอก ( รัศมี ) ยาวประมาณ 600 เมตร   ตั้งอยู่ติดกับบ้านของนายสังวาลย์   สิทธิสกุลรัตน์  หมู่ที่ 10  ต.ลำดวน

นอกจากเสาหินแล้ว   ชาวบ้านได้สร้างเสาหลักเมืองแกะสลักด้วยไม้ยาวประมาณ   1  ช่วงแขน   เพื่อเป็นที่เคารพสักการะบูชา   เป็นที่พึ่งของประชาชน   ช่วยปกปักรักษา ในแต่ละปีจะมีการจัดงานสงกรานต์   และเฉลิมฉลองบวงสรวงวิญญาณของเทพารักษ์   มีการแสดงต่าง ๆ อาทิเช่น    การเจรียง  รำตรุษ   และการละเล่นอื่น ๆ ใช้เวลาประมาณ  1  เดือน

                อภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ของศาลหลักเมือง   ได้แผ่กระจายไปทั่ว   ผู้ใดมีทุกข์  เจ็บป่วยไข้                  ก็จะมาเซ่นบวงสรวงบูชา   ความทุกข์นั้นก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง   ผู้ใดลบหลู่ดูหมิ่นก็จะได้รับผลกรรมทันตาเห็น